วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แชมพูสมุนไพรสูตรผมนิ่มข้ามวัน ดกดำข้ามปี

                      จากที่ตาลเคยโพสเรื่องการทำแชมพูมะกรูด ในกลุ่มเฟสแล้วได้รับความสนใจ ถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บอื่นๆ รวมทั้งแชร์ไปอีกเยอะเหมือนกัน โดยใช้หัวข้อว่า เทพมาก! แชมพูสมุนไพร ผมนิ่มข้ามวัน ดกดำข้ามปี ประมาณนั้น
                      ดีใจค่ะ ที่เผยแพร่แล้วได้รับความสนใจ ความจริงในเมืองไทยก็มีคนรู้เรื่องวิธีการทำแชมพูที่ใช้เบกกิ้งโซดามาผสมอยู่เหมือนกัน เพียงแค่อาจไม่ได้ตอบว่าทำไมต้องผสม หรือเทคนิคต่างๆ ทำยังไงอาจจะไม่ละเอียด
                      เนื่องจากในหลายๆโพสที่นำไปแชร์ข้อมูลอาจจะยังไม่ครบถ้วน ยังมีคำถามต่างๆ ในคอมเม้นท์ที่ตาลได้อ่าน แต่ก็ไม่ได้ตามไปตอบได้ทั้งหมด วันนี้จึงนำมาเขียนใหม่ รวบรวมใหม่และครบถ้วนเพื่อคลายข้อสงสัย 
                     และสิ่งสำคัญคืออยากให้ทำได้แล้วนำไปใช้ได้จริงๆ จะรู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใส่ผมอีกเลย แล้วผมมันก็สุขภาพดีไปตามธรรมชาติที่แท้จริงของมัน
                     ออกตัวก่อนว่าก่อนหน้านี้ตาลผมเสียนะคะ เนื่องจากทำสีผมบ่อยๆ ผมทำสีมันจะแห้งๆ สากๆ ไม่มีเงา ต่อให้ไม่แตกปลายก็สีหม่นๆ ไม่เงา หลังจากทำแชมพูใช้เอง ก่อนจะโพสก็ทดลองใช้เป็นเดือน รวมถึงตอนนี้ก็หลายเดือน ผมแท้ๆของเราจะเงา ๆ ส่วนที่แห้งไปแล้วเหมือนว่ามันตายแล้วก็คงต้องเพิ่มการหมักแบบธรรมชาติเอา

                   เริ่มต้นเลยนะคะ
 ส่วนผสม   
                 1. มะกรูด
                      - เป็นส่วนผสมหลักในการทำความสะอาด ไม่มีสมุนไพรอย่างอื่นใช้มะกรูดอย่างเดียวก็ได้
                      - ใช้เท่าไหร่ ? ใช้เท่าที่เราพอใจจะต้ม บ้านไหนคนมาก คนน้อย คนใช้ผมมาก ผมน้อย      คือกะกว่าทำครั้งนึงแล้วเก็บในตู้เย็นไว้ใช้สักไม่เกิน 1 เดือนก็พอค่ะ

                  2. อัญชัน
                      - เป็นส่วนเสริม ไม่เกี่ยวกับการทำความสะอาด มีก็ใส่ ไม่มีก็ไม่ใส่ค่ะ
                      - สดหรือแห้ง ? อัญชันแห้งได้ไหม ? ถ้ามีอัญชันสดดีกว่า อัญชันแห้งต้มแล้วสีม่วงไม่ออกแค่อัญชันเหี่ยวสีก็ยังไม่ออก สีไม่ออกแต่คุณค่าออกหรือเปล่าอันนี้คือไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
                      - ใส่มากไหม? ถ้ามีมากใส่มากก็ได้ ใส่ปริมาตรเท่าๆกับมะกรูดก็ได้ เพราะมันก็ฟูๆเบาๆ ไม่ใช่ใส่ตามน้ำหนักนะคะ

                    3. ขิง
                      - เป็นส่วนเสริม เน้นคนผมบาง หรือคนที่อยากให้ผมเกิดใหม่ ผมเยอะผมหนาอยู่แล้วไม่ใส่ก็ได้  ขิงนี่ส่วนตัวตาลก็ไม่ใส่นะคะ  เพราะเป็นคนผมหนามาก แต่เวลาทำให้แม่และคนอื่นๆ ที่ผมบางก็ใส่ขิงด้วย   นี่ขนาดตาลไม่ใส่ขิง ไปซอยผมมา ช่างทำผมยังทักว่าลูกผมเกิดใหม่เต็มเลย ลูกผมเส้นเล็กๆ เกิดใหม่เต็มหัวเลย    ส่วนแม่ และคนผมบางอีกหลายๆคนที่ใช้ตามตาล   แฮปปี้มากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกว่าผมหนาขึ้น และมีลูกผมเส้นเล็กๆเกิดใหม่เหมือนกัน
                      -  ใส่เยอะไหม ?  ถ้ามะกรูด 1 ก.ก.  ใส่ขิงสัก  1-2 ขีดก็พอค่ะ
                    4.  สมุนไพรอื่นๆ ได้ไหม ? เช่นใบหมี่อะไรงี้  แล้วแต่ชอบค่ะ  ถ้าคิดว่ามันบำรุงผมได้ เพราะมันก็ไม่ตายตัวหรอก แต่สำหรับตาลของที่หาง่ายมีเท่านี้และมันก็โอเคมากแล้วค่ะ
                       - ใส่เยอะไหม?  ใส่ก็ให้น้อยๆ อย่าให้เกินอย่างละ 1/10 ตามน้ำหนักของมะกรูดก็พอค่ะ
                       - ลอกเปลือกไหม  ล้างเฉยๆ ไม่ลอกก็ได้ตามสะดวกค่ะ

*  สาเหตุที่ไม่ควรใส่สมุนไพรอื่นเยอะเกินไป  เพราะว่า มะกรูดคือตัวทำความสะอาดหลัก  จะต้องใช้กรดในมะกรูด ทำปฏิกิริยากับเบคกิ้งโซดา  ถ้ากรดน้อยเกินไปก็จะทำปฏิกิริยาได้ไม่ดีพอค่ะ  *

                 วิธีทำ
                    1.   หั่นมะกรูด  ขิง ให้ฝอยๆ  ใส่ดอกอัญชัน   แล้วต้มทุกอย่างรวมกันให้เปื่อยๆ
ขอใช้รูปของคุณยศยา  ทวีสุขภิญโญ  เพราะว่าตอนที่โพสในกลุ่มได้ส่งการบ้านรูปนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกๆ พร้อมฟีดแบ็กดีๆกลับมาเลยค่ะ  (หั่นขิงให้ฝอยๆกว่านี้ก็ได้นะคะ)


                     2.   ต้มให้เปื่อย  ตั้งไฟพอน้ำเดือดแล้วลดไฟอ่อน  ปิดฝาไว้เลย  อีกสักชั่วโมงก็เปื่อยดีค่ะ
                           ถ้าต้มฟืนหรือต้มเตาถ่านก็ สบายต้มไปเลย ไฟอ่อนไฟแรงก็ได้
                           -  ใส่น้ำมากไหม  (ใส่พอท่วมๆ  ให้ต้มได้ดีๆ  เพราะตอนกรองจะได้ใส่น้ำอีก)
                              พอดียังไม่ได้ถ่ายรูปตอนต้มเปื่อยไว้
                 
                     3.  กรอง
                          -  ปั่นไหม ?  หลังจากที่ต้มเปื่อยแล้ว  ชอบปั่น  จะปั่นหรือไม่ปั่นก็ได้
                          -  กรองยังไง ?   วิธีกรองที่ง่ายที่สุดคือกรองด้วยผ้าขาวบาง  เพราะเราจะบีบน้ำสมุนไพรออกได้มาก  และเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในการทำแชมพู
                           ตาลใช้วิธีเทสมุนไพรใส่ผ้าขาวบางแล้วมัด  แล้วบีบน้ำออก  พอเราบีบออกจนเกือบหมดแล้ว  เอาห่อผ้าใส่ชาม  เติมน้ำใส่ทีละนิด    แล้วคั้นสมุนไพรออกจากห่อผ้าแล้วบีบออกอีก  ทำแบบนี้หลายๆ  ครั้งกะว่าไม่เสียดายสมุนไพรที่เหลือในห่อผ้าแล้วก็พอค่ะ
                           ตัวน้ำสมุนไพรที่ได้  ให้มีความเข้มข้นหนืดๆ ประมาณ น้ำมันพืชอ่ะค่ะ   คือไม่หนืดมาก  ไม่ใสมาก
                      4.  ต้มอีกครั้งเพื่อทำความสะอาด
                      5.  เย็นแล้วเก็บใส่ขวด   ใส่ตู้เย็น  แบ่งมาใช้เป็นขวดเล็กๆ นอกตู้เย็นสำหรับไม่เกิน 1 อาทิตย์  หมดแล้วค่อยเอาออกมาเติมใหม่ค่ะ

                                             


                       วิธีใช้  
                              ตามรูปเลยนะคะ   มีถ้วยเปล่า  ตักเบกกิ้งโซดาใส่สัก 1 ช้อนกาแฟ แล้วแต่ผมมากผมน้อย  ผมน้อย  สักค่อนๆช้อนก็พอ  ส่วนตาล  ผมเยอะก็ 1 ช้อนกาแฟ

                   พอผสมแล้ว  น้ำสมุนไพรจะเป็นฟองฟอด  ฟองที่เกิดขึ้นคือกรดในมะกรูด  ทำปฏิกิริยากับเบกกิ้งโซดาที่เป็นด่าง   ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์   ซึ่งแป๊บเดียวก็จะยุบ   และอัญชันเปลี่ยนเป็นสีเขียว  เอาฟองนั้นสระผมได้เลย  เวลาสระก็จะไม่เป็นฟอง   ผสมแล้วก็จะประมาณนี้  ที่เห็นนี่คือถ่ายรูปไม่ทัน  ฟองเริ่มยุบแล้ว

                  เราใช้ฟองสมุนไพรสระผมได้เลย  สระแล้วก็ล้างออก  ไม่ต้องนวดผมอีก  ไม่ต้องไปผสมแชมพู  หรือว่าอะไรอีก  เพราะว่า  ถ้าเราสระผมแล้ว  ล้างออก  ผมแห้งแล้วรู้สึกสะอาด  ไม่คัน   คือจบค่ะ  ไม่ต้องไปผสมสารทำความสะอาดใดๆให้มีสารเคมีอีก   ระหว่างสระจะรู้สึกผมนิ่มลื่นมาก   พอล้างออกจะรู้สึกแข็งๆ   แต่พอผมแห้ง  คราวนี้นิ่มจริงค่ะ  นิ่มข้ามไปอีกวัน  ข้ามไปอีกสองวันก็ยังนิ่ม

                    คำถามสำคัญ   ซึ่งรวมรวมจากคอมเม้นท์ที่เพื่อนๆถามมา 
1.  ทำไมต้องผสมเบกกิ้งโซดา  ใช้แต่มะกรูดเลยไม่ได้เหรอ ?
      ตอบ   
               -  ปกติแล้วแชมพูที่เราสระผมทั่วไปจะเป็นด่าง   เพื่อใช้ในการทำความสะอาด   ถ้าเราสระผมแล้วไม่ใช้ครีมนวดผม  ผมจะสะอาดแต่ชี้ฟู ไม่นิ่ม   จึงต้องใช้ครีมนวดผมตาม ซึ่งครีมนวดผมเป็นกรด   การใช้ครีมนวดผม ก็เพื่อปรับสภาพลดความเป็นด่างที่ค้างอยู่บนผมเรา   ทำให้ผมนิ่มขึ้น
               -  แต่เนื่องจากแชมพูมะกรูดมีค่าความเป็นกรด  ถ้านำมาสระผมล้วนๆ  ก็เหมือนกับเราเอาครีมนวดผมมานวดโดยไม่สระ  ทำให้ผมไม่สะอาด   บางคนต้องนำไปผสมแชมพูอื่นๆ  เพราะรู้สึกไม่สะอาดนั่นเอง  แม้แต่ภูมิปัญญาโบราณ  เขาก็ไม่ได้ใช้มะกรูดล้วนๆ สระผม  คนโบราณเขานำมะกรูดเผาไฟไปบีบๆคั้นๆ ใส่น้ำขี้เถ้า  เพื่อลดความเป็นกรด   แต่คนปัจจุบันถ่ายทอดมาแต่ความเป็นสมุนไพรที่ดี  แต่เอาวิธีใช้มาด้วยไม่หมด  จึงเหลือแต่มะกรูดค่ะ   
                 -  การใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะกรูดก่อนสระทำให้เราเหมือนกับใช้ทั้งแชมพูและครีมนวดไปทีเดียวกันค่ะ  ผมสะอาดเหมือนแชมพู  และนิ่มเหมือนครีมนวดด้วยค่ะ
                   
                   ดูตามรูปนี่นะคะ   นี่คือแชมพูมะกรูดที่ยังไม่ผสมเบกกิ้งโซดา  ตามที่ตาลวัด ค่า PH จะอยู่ประมาณ 3  คือมันไกลค่า PH=7 ที่เป็นกลางเอามากๆ   (มันก็คงไม่เป๊ะหรอกแต่พอใช้ได้)  

                        ส่วนรูปนี้  คือน้ำมะกรูดที่ผสมเบกกิ้งโซดาแล้ว  ต่อให้เรามือไม่แม่น  ผสมน้อยบ้าง มากบ้าง  หรือมากจนเกินไป  ค่า PH จะอยู่ที่  ไม่เกิน  8  เท่านั้น

2. เบกกิ้งโซดาคืออะไร ?  หาซื้อที่ไหน ?  อันเดียวกับโซดาไฟไหม ?  แล้วมันไม่ใช่สารเคมีเหรอ ?
     ตอบ
              เบกกิ้งโซดา  เรียกอีกอย่างว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต   ไม่ใช่โซดาไฟนะคะ  อันนั้นตายเลย  อันนี้เป็นส่วนผสมในการทำขนม   ทำให้มันฟูๆ  ประมาณนั้น  มีขายตามซุปเปอร์   โลตัส  แมคโคร  แผนกเบเกอร์รี่  ที่เซเว่นตาลแน่ใจ  อาจจะมีก็ได้ค่ะ    มันก็เป็นสารเคมีระดับที่เป็นอาหารได้  เหมือนผงชูรส  ผงฟู  เกลือ  ประมาณนี้  ที่มีชื่อทางเคมีกันทั้งนั้น แต่ก็ยังเป็นสารเคมีที่อ่อนกว่าพวกสารทำฟอง  สี  กลิ่น  สารกันบูด  น้ำหอม ฯลฯ  ต่างๆที่ผสมอยู่กับแชมพูครีมนวดที่ใช้ๆกันอยู่ค่ะ   
                ตามรูปค่ะ   ยี่ห้ออื่นก็ได้  แต่ให้เขียนว่าเบกกิ้งโซดาแบบนี้  ห่อนี้ 300 กรัม ซื้อมา 17 บาทค่ะ   

4.   ผสมไว้เลยได้ไหม  ไม่ต้องผสมตอนใช้ได้ไหม  ?
       ตอบ 
        เมื่อมีคนถามคำถามนี้  ตาลได้ลองทำการทดลองกับตัวเอง  ผสมไว้เลย  โดยวัดค่า PH ให้ใกล้เคียง  กับ  7  ที่สุด   ลองใช้ประมาณ  1  เดือน  ตอนที่ผสมใหม่ๆ วันแรกๆก็ใช้ได้อยู่  แต่ผ่านไปหลายๆวัน เอามาใช้แล้ว  มันไม่โอเคค่ะ  ผมไม่นิ่ม  ผมแข็ง  สรุปคือผสมตอนจะใช้  ดีที่สุดค่ะ

5.  น้ำสมุนไพรเก็บได้นานไหม  
     ตอบ
           เราทำแบบไม่มีสารกันเสีย  ไม่สีสารกันบูด   เก็บในตู้เย็นก็น่าจะไม่ควรเกิน  1  เดือน  ถ้าจะเก็บนานกว่านั้นก็ลองเก็บใส่ช่องแข็งดูก็ได้ค่ะ  เราทำทีละแค่พอใช้  ทำบ่อยๆ  ดีกว่าค่ะ       

            หลังจากที่ใช้เอง  ทำให้คนในครอบครัวใช้   รวมทั้งคนรอบๆตัว  หรือคนที่ทำตามมาตั้งแต่แรกๆ  ฟีดแบ็กที่ได้รับมาคือ  รู้สึกผมหนาขึ้นนะ  ไม่รู้ว่าหนาขึ้นจริง  หรือแค่รู้สึก  แต่รู้สึกกันแทบทุกคนสำหรับคนที่ผมบางๆนะคะ  แม่ตาลนี่พูดแล้วพูดอีก  ผมแม่หนาขึ้นจริงๆนะ  แล้วเหมือนมันไม่หงอกเพิ่มขึ้นด้วย  อยากให้ลองทำดูค่ะ  สวยแบบประหยัดมีจริง   นี่ตาลก็ไม่เคยซื้อแชมพู  ครีมนวด  ทรีทเม้นท์  และสารพัดเซรั่มสำหรับผมอีกเลย   

                         สุดท้ายนี้  ขอให้มีความสุขกับชีวิตที่ปลอดสารเคมีไปได้ทีละอย่างนะคะ  ถ้ามีคำถามใหม่ๆ  ตาลจะมาแก้ไขรวบรวมไว้ในโพสค่ะ    ขอบคุณทุกท่านที่สนใจแชมพูสูตรนี้ค่ะ














18 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณคุณตาลมากค่ะ จะลองเอาไปทำนะคะ

    ตอบลบ
  2. ใช้สระทุกวันได้มั๊ยคะ

    ตอบลบ
  3. ใช้สระทุกวันได้มั๊ยคะ

    ตอบลบ
  4. ทำใช้แล้วแต่ผมแข็งอะค่ะ ต้องใช้ครีมนวดผมสมุนไพรควบคู่กันได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ
  5. ทำใช้แล้วแต่ผมแข็งอะค่ะ ต้องใช้ครีมนวดผมสมุนไพรควบคู่กันได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ
  6. ต้มเละเกินไปแก้ไงง่ะ

    ตอบลบ
  7. 1.แนะนำให้ใช้ครีมนวดผมตามค่ะ เพราะมันสะอาดแต่ก็ไม่ได้บำรุงพอ
    2.สระทุกวันก็คงได้มั้ง แต่วันเดียวถ้าเรารู้สึกสะอาดอยู่ก็ไม่สระค่ะ
    3.ต้มเละไปก็ไม่เป็นไรค่ะปั่นไปก็อาจจะพอดี เพราะตอนใช้จริงก็เหลวๆนิดๆ ถ้าเละมากคราวหน้าก็ค่อยๆใส่น้ำนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คือมันเละๆแล้วพอคั้นน้ำมันสีออกม่วงๆน้ำตาลๆใช่ได้ไหมค้ะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ25 กันยายน 2559 เวลา 20:52

      ใช่ค่ะ

      ลบ
    3. ไม่ระบุชื่อ25 กันยายน 2559 เวลา 20:52

      ใช่ค่ะ

      ลบ
  8. เรียนเอกเคมีรึป่าวครับเนี่ยน่ะ :-)

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณค่ะ ขอสอบถามว่า เวลาสระ ใช้แต่ฟองเหรอคะ (เห็นเขียนว่าใช้ฟอง) เราเอาส่วนที่เป็นน้ำมาสระได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณคะ ขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นดิ ตกลงเอาแค่ฟองมาสระหรอคะ ได้คำคอบยังบอกด้วย

      ลบ
  11. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  12. สนใจมากค่ะมีลายส่วนตัวไหมค่ะ

    ตอบลบ
  13. ถ้าใส่สารกันบูด​ได้ไหมคะ

    ตอบลบ